ถ้าคุณมีรถ ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ “ต่อภาษีรถยนต์” คือเรื่องที่หนีไม่พ้น
หลายคนรู้สึกว่าขั้นตอนยุ่งยาก เอกสารเยอะ และกลัวทำผิด แต่ความจริงคือ ถ้าเข้าใจลำดับ ทุกอย่างง่ายกว่าที่คิดมาก
บทความนี้จะพาคุณดูแบบครบ ๆ ว่า
-
ต่อภาษีรถยนต์ราคาเท่าไหร่
-
ต้องใช้เอกสารอะไร
-
ต่อได้กี่ทาง แบบไหนสะดวกสุด
-
และถ้าไม่ต่อ จะเกิดอะไรขึ้น
อ่านจบ ทำตามได้ทันที ไม่พลาดแน่นอน
ต่อภาษีรถยนต์ราคาเท่าไหร่?
คำตอบคือ ไม่มีราคาตายตัว เพราะค่าต่อภาษีรถประกอบด้วยหลายส่วน ได้แก่
1. ต่อภาษีรถยนต์ (ภาษีประจำปี)
คิดตามความจุกระบอกสูบ (cc) ของรถ เช่น
-
รถเล็ก เครื่องไม่แรง → ภาษีถูก
-
รถเครื่องใหญ่ → ภาษีสูงขึ้นตามลำดับ
“รถผมเครื่อง 1,500 cc จ่ายปีหนึ่งไม่ถึงสองพัน ถือว่ารับได้”
2. ค่าพ.ร.บ. รถยนต์
เป็นค่าบังคับตามกฎหมาย
-
รถยนต์ส่วนบุคคล ประมาณ 600–900 บาท/ปี
-
รถจักรยานยนต์ ประมาณ 300–400 บาท/ปี
ข้อมูลนี้อ้างอิงจากหลักเกณฑ์ของ กรมการขนส่งทางบก ซึ่งกำหนดให้รถทุกคันต้องมี พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ
3. ค่าตรวจสภาพรถ (กรณีจำเป็น)
-
รถยนต์อายุเกิน 7 ปี
-
รถจักรยานยนต์อายุเกิน 5 ปี
ค่าตรวจโดยทั่วไปอยู่ที่ 150–300 บาท
📌 สรุปรวมคร่าว ๆ
รถยนต์ทั่วไป จะจ่ายประมาณ 1,500 – 4,000 บาท/ปี
ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและอายุการใช้งาน
รถกี่ปีต้องตรวจสภาพก่อนต่อภาษี?
หลายคนพลาดตรงนี้ ทำให้ไปต่อภาษีแล้วต้องกลับมาใหม่
หลักง่าย ๆ คือ
-
รถยนต์ > 7 ปี → ต้องตรวจ ตรอ.
-
มอเตอร์ไซค์ > 5 ปี → ต้องตรวจ ตรอ.
การตรวจสภาพจะดูเรื่องเบรก ไฟ ยาง และความปลอดภัยพื้นฐาน
“ตรวจจริง ๆ ไม่ได้น่ากลัว แค่ดูว่ารถเรายังใช้งานได้ปกติไหม”
ต่อภาษีรถยนต์ ได้กี่ทาง แบบไหนสะดวกสุด?
ปัจจุบันคุณมีทางเลือกหลายแบบ ไม่จำเป็นต้องไปขนส่งเสมอไป
1. ต่อที่สำนักงานขนส่ง
เหมาะกับคนที่อยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
ข้อดีคือมั่นใจ ถูกต้องแน่นอน
ข้อเสียคืออาจต้องรอคิวนาน
2. ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ทำผ่านระบบ e-Service ของกรมการขนส่ง
สะดวก ประหยัดเวลา เหมาะกับคนทำงาน
“ผมต่อออนไลน์ ใช้มือถือไม่ถึง 10 นาที ป้ายส่งถึงบ้าน”
3. ต่อผ่านร้าน ตรอ. หรือร้านรับต่อภาษี
ร้านจะจัดการให้ครบทั้งตรวจสภาพ + ต่อภาษี
เหมาะกับคนไม่อยากยุ่งเรื่องเอกสาร
4. เคาน์เตอร์บริการ / แอป
เช่น เคาน์เตอร์ในห้างหรือแอปบางเจ้า
สะดวก แต่บางที่อาจมีค่าบริการเพิ่มเล็กน้อย
ต่อภาษีรถยนต์ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
เตรียมให้ครบ จะได้ไม่เสียเวลา
-
เล่มทะเบียนรถ (หรือสำเนา)
-
พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ
-
ใบตรวจสภาพรถ (ถ้ามี)
-
บัตรประชาชน (บางกรณี)
ถ้าไม่ ต่อภาษีรถยนต์ จะเกิดอะไรขึ้น?
ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหลายคนคิดว่า “เดี๋ยวค่อยต่อ”
ผลที่ตามมา ได้แก่
-
โดนปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท
-
รถถือว่าผิดกฎหมาย
-
ประกันภาคสมัครใจอาจไม่คุ้มครอง
-
ต่อภาษีย้อนหลังยุ่งยากขึ้น
“เสียเวลาแค่ปีละครั้ง ดีกว่าเสียเงินค่าปรับหลายเท่า”
ถ้าตอบคำถามว่า ต่อภาษีรถยนต์ราคาเท่าไหร่ ทำยังไง
คำตอบคือ ค่าใช้จ่ายไม่สูง และขั้นตอนไม่ซับซ้อน
แค่รู้ว่า
-
รถคุณต้องตรวจหรือไม่
-
เตรียมเอกสารให้ครบ
-
เลือกช่องทางที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
แค่นี้ก็จบเรื่องภาษีรถแบบสบายใจแล้วครับ
หากสนใจสอบถามรายละเอียด สามารถติดต่อ Jumnumforcash ได้ที่
โทร 093-396-6687 หรือ Line Official: @quickcash



